สรุปหนังสือ "Ego Is the Enemy" โดย Ryan Holiday หนทางสู่การเอาชนะอัตตา

Ryan Holiday ตัดสินใจสักคำว่า "EGO IS THE ENEMY" บนแขนขวา และ "THE OBSTACLE IS THE WAY" บนแขนซ้าย เพื่อเตือนตัวเองทุกวัน
.
Holiday เคยเชื่อว่าเขาเข้าใจโลก เคยเป็นมือโปรเบื้องหลังแคมเปญระดับโลก เคยขึ้นเวทีใหญ่ พูดคำเท่ๆ ที่ทำให้คนทั้งห้องจดโน้ตตาม และเขาก็เคยพังแบบเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้…เพราะอีโก้ไม่ทำลายคุณตอนคุณอ่อนแอ แต่มันจะรอคุณประสบความสำเร็จ แล้วค่อยค่อยคลานออกมา พาคุณล้มด้วยน้ำเสียงที่หวานล้ำว่า “คุณคู่ควร” “คุณเหนือกว่า” “คุณพิเศษกว่าใครในห้องนี้” และเมื่อคุณเริ่มเชื่อ มันก็เริ่มทำลาย
.
อีโก้ทำลายคนเก่งได้อย่างไร? มันทำให้คุณหยุดเรียนรู้ มันทำให้คุณเชื่อว่าคุณ “รู้แล้ว” มันทำให้คุณพูดมากกว่าฟัง รีบมากกว่ารู้ และร้อนแรงมากกว่าลึกซึ้ง มันไม่เคยด่าคุณตรงๆ แต่มันกระซิบเบาๆ ว่า “แค่นี้ก็พอแล้ว อย่าเหนื่อยไปมากกว่านี้เลย นายเก่งพอแล้ว” จนกระทั่งคุณกลายเป็นคนที่เก่งแค่ในหัวตัวเอง ในขณะที่โลกเดินหน้าต่อไปโดยไม่แคร์ว่าใครเคยโด่งดัง
.
Ego Is the Enemy ไม่ได้บอกให้คุณเลิกทะเยอทะยาน แต่มันถามว่า คุณกำลังวิ่งเพื่อเข้าใกล้สิ่งที่มีความหมาย หรือกำลังวิ่งเพราะกลัวจะเป็น “คนธรรมดา” กันแน่ มันไม่ได้ห้ามให้คุณประสบความสำเร็จ แต่มันแสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จที่ไม่ได้มาพร้อมกับความถ่อมตน จะกลายเป็นกับดักที่ดึงคุณลงลึกกว่าความล้มเหลว
.
.
==========================
.
[ ASPIRE – ช่วงแห่งความทะเยอทะยาน ]
.
.
1. บทเรียนจากนายพลผู้ปฏิเสธอำนาจ
.
William Tecumseh Sherman เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของคนที่รู้จักควบคุมอัตตา เมื่อเขาพบกับประธานาธิบดี Lincoln ในช่วงสงครามกลางเมือง Sherman ขอสิ่งที่แปลกประหลาด
.
"ผมจะรับตำแหน่งนายพลจัตวา แต่ขอให้ท่านสัญญาว่าจะไม่แต่งตั้งผมเป็นผู้บัญชาการสูงสุด"
.
ในขณะที่นายพลคนอื่นๆ ต่างแย่งชิงอำนาจ Sherman กลับรู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อม เขาสบายใจกับการเป็นรอง เมื่อ General Ulysses S. Grant ซึ่งมียศต่ำกว่าในทางเทคนิค เป็นผู้นำในการรบที่ Fort Donelson Sherman ส่งจดหมายพร้อมเสบียงไปให้
.
"This is your show. Call upon me for any assistance I can provide." (นี่เป็นการแสดงของคุณ เรียกหาผมเพื่อความช่วยเหลือใดๆ ที่ผมสามารถให้ได้)
.
การถ่อมตนนี้ไม่ได้ทำให้ Sherman อ่อนแอ ตรงกันข้าม มันทำให้เขาเรียนรู้และเติบโต จนกลายเป็นหนึ่งในนายพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา หลังสงคราม เมื่อมีคนอยากให้เขาลงสมัครเป็นประธานาธิบดี Sherman ปฏิเสธอย่างชัดเจน:
.
"I have all the rank I want." (ผมมียศที่ผมต้องการแล้ว)
.
.
2. พิษภัยของการพูดมากเกินไป
.
Holiday ยกตัวอย่างที่น่าสนใจของ Upton Sinclair นักเขียนและนักเคลื่อนไหวที่ลงสมัครผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1934 Sinclair ทำสิ่งที่ผิดปกติ - เขาเขียนหนังสือชื่อ "I, Governor of California and How I Ended Poverty" บรรยายถึงนโยบายต่างๆ ที่เขา "ได้ทำ" ในฐานะผู้ว่าการรัฐ ทั้งที่เขายังไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง
.
ผลที่ตามมาน่าสนใจ Carey McWilliams เพื่อนของ Sinclair สังเกตว่า "Upton not only realized that he would be defeated but seemed somehow to have lost interest in the campaign. In that vivid imagination of his, he had already acted out the part of 'I, Governor of California,' ... so why bother to enact it in real life?" (อัพตันไม่เพียงแต่ตระหนักว่าเขาจะแพ้ แต่ดูเหมือนว่าจะหมดความสนใจในการหาเสียง ในจินตนาการอันสดใสของเขา เขาได้แสดงบทบาท 'ผม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย' ไปแล้ว... แล้วทำไมต้องไปแสดงมันในชีวิตจริงด้วย?)
.
Sinclair แพ้การเลือกตั้งอย่างย่อยยับด้วยคะแนนห่างกว่า 250,000 เสียง
.
Emily Gould อดีตบล็อกเกอร์ของ Gawker เล่าประสบการณ์คล้ายกัน แม้เธอจะได้สัญญาหนังสือมูลค่า 6 หลัก แต่เธอใช้เวลา 2 ปีโดยไม่สามารถเขียนอะไรได้เลย:
.
"In fact, I can't really remember anything else I did in 2010. I tumbled, I tweeted, and I scrolled. This didn't earn me any money but it felt like work. I justified my habits to myself in various ways. I was building my brand." (อันที่จริง ฉันจำอะไรอื่นที่ฉันทำในปี 2010 ไม่ได้เลย ฉัน tumble ฉัน tweet และฉัน scroll มันไม่ได้ทำเงินให้ฉันเลย แต่มันรู้สึกเหมือนงาน ฉันให้เหตุผลกับนิสัยของตัวเองในหลายๆ ทาง ฉันกำลังสร้างแบรนด์ของฉัน)
.
เธอพูดแทนที่จะทำ และนั่นคือสิ่งที่อัตตาชอบ - มันชอบให้เรารู้สึกว่าการพูดเท่ากับการทำ
.
Holiday อ้างคำสอนของนักปรัชญา Kierkegaard: "Mere gossip anticipates real talk, and to express what is still in thought weakens action by forestalling it."
.
(การนินทาเพียงอย่างเดียวคาดการณ์ล่วงหน้าถึงการพูดจริง และการแสดงออกถึงสิ่งที่ยังอยู่ในความคิดจะทำให้การกระทำอ่อนแอลงด้วยการขัดขวางมัน)
.
เขายังยกตัวอย่าง Bo Jackson นักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะคว้า Heisman Trophy และถูกเลือกอันดับหนึ่งใน NFL draft แต่เขาบอกเพียงแฟนสาวเท่านั้น ไม่ได้ประกาศให้ใครรู้
.
.
3. ทางเลือกแห่งชีวิต: To Be or To Do?
.
John Boyd เป็นหนึ่งในนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุคสมัยใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อเขา ทำไม? เพราะเขาเลือกที่จะ "ทำ" แทนที่จะ "เป็น"
.
Boyd มีคำพูดที่เขาพูดกับลูกศิษย์ทุกคน โดยเฉพาะในปี 1973 เมื่อเขาเรียกนายทหารหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาพบ:
.
“ไทเกอร์ วันหนึ่งคุณจะมาถึงทางแยก และคุณจะต้องตัดสินใจว่าจะไปทางไหน”
.
Boyd ใช้มือแสดงสองทิศทาง:
.
“ถ้าคุณไปทางนั้น คุณจะเป็นใครสักคนได้ คุณจะต้องประนีประนอมและคุณจะต้องหันหลังให้เพื่อนของคุณ แต่คุณจะเป็นสมาชิกของกลุ่ม และคุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และคุณจะได้รับมอบหมายงานที่ดี”
.
แล้วเขาหยุด เพื่อให้ทางเลือกที่สองชัดเจน:
.
“หรือคุณสามารถไปทางนั้นและคุณสามารถทำบางสิ่ง—บางสิ่งเพื่อประเทศของคุณ เพื่อกองทัพอากาศของคุณ และเพื่อตัวคุณเอง ถ้าคุณตัดสินใจว่าคุณต้องการทำบางสิ่ง คุณอาจไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และคุณอาจไม่ได้รับมอบหมายงานที่ดี และแน่นอนคุณจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บังคับบัญชา แต่คุณจะไม่ต้องประนีประนอมกับตัวเอง คุณจะซื่อสัตย์ต่อเพื่อนและต่อตัวเอง และงานของคุณอาจสร้างความแตกต่าง”
.
Boyd จบด้วยคำถามที่ลูกศิษย์ของเขาจะจดจำไปตลอดชีวิต: "To be or to do? Which way will you go?"
.
จะเป็นหรือจะทำ? คุณจะไปทางไหน?
.
Boyd เองก็เดินตามคำสอนของตัวเอง เขาไม่เคยเลื่อนยศสูงกว่าพันเอก แต่ทฤษฎีของเขาเปลี่ยนแปลงวิธีการรบในทุกเหล่าทัพ เครื่องบินรบ F-15 และ F-16 เกิดขึ้นจากแนวคิดของเขา
.
.
4. ความสำคัญของการเป็นนักเรียนตลอดกาล
.
เมื่อ Kirk Hammett ได้รับเลือกให้เป็นมือกีตาร์ของ Metallica แทน Dave Mustaine ที่ถูกไล่ออก คนส่วนใหญ่คงคิดว่านี่คือจุดสูงสุดของชีวิต แต่ Hammett กลับทำสิ่งที่น่าประหลาดใจ - เขาไปหาครูสอนกีตาร์
.
Joe Satriani ครูที่ Hammett เลือก อธิบายว่า
.
“สิ่งหลักกับเคิร์ก... คือเขาเป็นมือกีตาร์ที่ดีมากเมื่อเขาเดินเข้ามาทางประตู เขาเล่นลีดกีตาร์อยู่แล้ว... เขาเล่นได้เจ๋งแล้ว เขามีมือขวาที่ยอดเยี่ยม เขารู้คอร์ดเกือบทั้งหมด เขาแค่ไม่ได้เรียนรู้วิธีเล่นในสภาพแวดล้อมที่เขาเรียนรู้ชื่อทั้งหมดและวิธีเชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน”
.
สิ่งที่แยก Hammett ออกจากคนอื่นคือความเต็มใจที่จะทนกับการสอนที่เข้มงวด:
.
“เขาเป็นนักเรียนที่ดี เพื่อนและคนรุ่นเดียวกันหลายคนจะเดินออกไปพร้อมบ่นว่าผมเป็นครูที่เข้มงวดเกินไป”
.
.
Frank Shamrock แชมป์ MMA หลายรุ่น มีระบบที่เขาเรียกว่า "Plus, Minus, and Equal":
.
Plus: คนที่เก่งกว่าที่เราเรียนรู้ได้
.
Minus: คนที่เราสามารถสอนได้
.
Equal: คนที่อยู่ในระดับเดียวกันที่เราแข่งขันด้วย
.
Shamrock อธิบายว่า “ความคิดที่ผิดเกี่ยวกับตัวเองจะทำลายคุณ สำหรับผม ผมยังคงเป็นนักเรียนเสมอ นั่นคือสิ่งที่ศิลปะการต่อสู้เป็น และคุณต้องใช้ความถ่อมตนนั้นเป็นเครื่องมือ คุณวางตัวเองไว้ใต้คนที่คุณไว้ใจ”
.
Epictetus นักปรัชญาสโตอิกกล่าวไว้ว่า: "It is impossible to learn that which one thinks one already knows." (เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนรู้สิ่งที่คนคิดว่าตนรู้แล้ว)
.
เราไม่สามารถเรียนรู้ได้หากคิดว่าเรารู้หมดแล้ว และนี่คือสิ่งที่อัตตาพยายามหลอกเราอยู่เสมอ
.
.
5. Passion อาจไม่ใช่คำตอบ
.
Holiday ท้าทายแนวคิดที่ว่าเราต้องมี "passion" หรือความหลงใหล เขายกตัวอย่าง Eleanor Roosevelt:
.
เมื่อมีคนชมว่า Roosevelt มี "passionate interest" ในกฎหมายสังคมชิ้นหนึ่ง เธอตอบว่า: "Yes, I do support the cause. But I hardly think the word 'passionate' applies to me." (ใช่ ฉันสนับสนุนเรื่องนี้ แต่ฉันไม่คิดว่าคำว่า 'หลงใหล' เหมาะกับฉัน)
.
Roosevelt อยู่เหนือความหลงใหล เธอมีจุดมุ่งหมาย เธอมีทิศทาง เธอไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยความหลงใหล แต่ด้วยเหตุผล
.
John Wooden โค้ชบาสเก็ตบอลผู้ยิ่งใหญ่ ใช้คำเดียวในการอธิบายสไตล์ของเขา: "dispassionate" - ไม่หลงใหล
.
Holiday ชี้ให้เห็นความแตกต่าง:
.
Passion คือ "I am so passionate about ______" (ฉันหลงใหลใน ______ มาก)
.
Purpose คือ "I must do ______. I was put here to accomplish ______. I am willing to endure ______ for the sake of this." (ฉันต้องทำ ______. ฉันถูกส่งมาที่นี่เพื่อทำให้สำเร็จ ______. ฉันเต็มใจที่จะอดทน ______ เพื่อสิ่งนี้)
.
Purpose ลดความสำคัญของ "ตัวฉัน" มันเกี่ยวกับการไล่ตามสิ่งที่อยู่นอกตัวเรา ไม่ใช่การทำให้ตัวเองพอใจ
.
.
6. กลยุทธ์ผ้าใบ
.
ในระบบโรมันโบราณ มีแนวคิดที่เรียกว่า "anteambulo" - คนที่เดินนำหน้าเจ้านายเพื่อเคลียร์ทาง สื่อสารข้อความ และทำให้ชีวิตของเจ้านายง่ายขึ้น
.
Holiday แนะนำให้เราใช้ "Canvas Strategy" - การเป็นผ้าใบให้คนอื่นวาดภาพ:
.
Benjamin Franklin เขียนจดหมายโดยใช้นามแฝง Silence Dogwood และส่งไปใต้ประตูโรงพิมพ์ของพี่ชาย ไม่ได้รับเครดิตใดๆ จนกระทั่งหลายปีต่อมา แต่เขาได้เรียนรู้วิธีการเขียน การสร้างความคิดเห็นสาธารณะ และฝึกฝนทักษะ
.
Bill Belichick โค้ช NFL ผู้ชนะ Super Bowl 4 สมัย เริ่มต้นจากการทำงานที่โค้ชคนอื่นไม่ชอบ: การวิเคราะห์ฟิล์ม งานแรกของเขากับ Baltimore Colts เป็นงานอาสาสมัครที่ไม่มีค่าจ้าง
.
"He was like a sponge, taking it all in, listening to everything. You gave him an assignment and he disappeared into a room and you didn't see him again until it was done, and then he wanted to do more." (เขาเหมือนฟองน้ำ ดูดซับทุกอย่าง ฟังทุกอย่าง คุณให้งานเขา และเขาหายเข้าไปในห้อง และคุณจะไม่เห็นเขาอีกจนกว่างานจะเสร็จ แล้วเขาก็อยากทำมากกว่านั้น)
.
Holiday แนะนำวิธีการต่างๆ ในการใช้ Canvas Strategy:
.
หาคนเก่งๆ มาแนะนำให้รู้จักกัน
หางานที่ไม่มีใครอยากทำแล้วทำมัน
หาความสิ้นเปลืองและความซ้ำซ้อนเพื่อประหยัดทรัพยากร
ผลิตมากกว่าคนอื่นและแจกไอเดีย
.
.
7. อันตรายของการอยู่ในหัวตัวเอง
.
General George McClellan ในสงครามกลางเมือง เขาได้รับเลือกเพราะมีคุณสมบัติครบ - จบ West Point, มีประสบการณ์รบ, เรียนรู้ประวัติศาสตร์, ดูดี, เป็นที่รักของทหาร
.
แต่เขากลับเป็นนายพลที่แย่ที่สุดของฝ่าย Union ทำไม? เพราะเขาออกไม่ได้จากหัวตัวเอง เขาหลงรักภาพลักษณ์ของตัวเองในฐานะผู้นำกองทัพอันยิ่งใหญ่
.
นักประวัติศาสตร์ที่รบภายใต้ McClellan สรุปว่า: "His egotism is simply colossal - there is no other word for it." (อัตตาของเขาใหญ่โตมหาศาล ไม่มีคำอื่นมาอธิบายได้)
.
Anne Lamott นักเขียนอธิบายภาวะนี้ได้ดีว่า หากเราไม่ระวัง "สถานี KFKD" จะเล่นในหัวเรา 24 ชั่วโมง - ลำโพงข้างขวาจะส่งเสียงการยกย่องตัวเองไม่รู้จบ ส่วนลำโพงข้างซ้ายจะเป็นเพลงแร็พแห่งการเกลียดตัวเอง
.
.
8. ความภูมิใจที่มาเร็วเกินไป
.
C.S. Lewis เขียนไว้ว่า
.
“คนที่หยิ่งผยองมักมองลงมาที่สิ่งต่างๆ และผู้คน และแน่นอน ตราบใดที่คุณมองลงมา คุณจะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่เหนือคุณ”
.
Benjamin Franklin อายุ 18 ปี กลับไปเยี่ยมบอสตันด้วยความภูมิใจ มีชุดใหม่ นาฬิกา เหรียญเต็มกระเป๋า ขณะเดินคุยกับ Cotton Mather บนทางเดิน Mather ตะโกน: "Stoop! Stoop!" (ก้มหัว! ก้มหัว!)
.
Franklin ที่กำลังมัวแต่โอ้อวดเดินชนคานเพดานต่ำ Mather พูดอย่างเย้ยหยัน “ให้นี่เป็นคำเตือนว่าอย่าชูหัวสูงตลอดเวลา ก้มหัวลง หนุ่มน้อย ก้มหัว ขณะที่คุณเดินผ่านโลกนี้ และคุณจะหลีกเลี่ยงการกระแทกที่เจ็บปวดได้มากมาย”
.
Cyril Connolly กล่าวไว้ว่า: "Whom the gods wish to destroy, they first call promising." - ผู้ที่เทพต้องการทำลาย พวกเขาจะเรียกว่ามีอนาคตก่อน
.
John D. Rockefeller ตระหนักถึงอันตรายนี้ เขาฝึกพูดกับตัวเองทุกคืน: "Because you have got a start, you think you are quite a merchant; look out or you will lose your head—go steady." (เพราะคุณได้เริ่มต้นแล้ว คุณคิดว่าคุณเป็นพ่อค้าที่เก่งแล้ว ระวังไว้ไม่งั้นคุณจะเสียสติ - ใจเย็นๆ)
.
.
9. ทำงาน ทำงาน และทำงาน
.
Edgar Degas จิตรกรอิมเพรสชันนิสต์ชื่อดัง พยายามเขียนบทกวี เขาบ่นกับ Stéphane Mallarmé เพื่อนกวีว่า: "I can't manage to say what I want, and yet I'm full of ideas." - ผมพูดสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ แต่ผมเต็มไปด้วยไอเดีย
.
Mallarmé ตอบอย่างตรงไปตรงมา: "It's not with ideas, my dear Degas, that one makes verse. It's with words." - ไม่ใช่ด้วยไอเดีย เดอกาส์ที่รัก ที่เราสร้างบทกวี แต่ด้วยคำ
.
หรือพูดอีกอย่าง - ด้วยการทำงาน
.
Paul Valéry นักปรัชญาและนักเขียนอธิบายว่า “หน้าที่ของกวี... ไม่ใช่การประสบกับสถานะแห่งบทกวี นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว หน้าที่ของเขาคือสร้างมันในผู้อื่น”
.
Henry Ford พูดไว้ชัดเจน: "You can't build a reputation on what you're going to do."
.
คุณสร้างชื่อเสียงจากสิ่งที่คุณ “กำลังจะทำ” ไม่ได้
.
Bill Bradley นักบาสเก็ตบอล เตือนตัวเอง: “เมื่อคุณไม่ซ้อม จำไว้ว่า มีใครสักคนที่ไหนสักแห่งกำลังซ้อมอยู่ และเมื่อคุณเจอเขา เขาจะชนะ”
.
Holiday เตือนเกี่ยวกับ "Fake it 'til you make it" - ทำไมเราถึงพยายามแกล้งทำ? แพทย์ ควอเตอร์แบ็ค หรือนักขี่กระทิง ทำแบบนั้นได้ไหม? แล้วทำไมเราถึงคิดว่าเราทำได้?
.
.
=============================
.
SUCCESS – เมื่อความสำเร็จกลายเป็นบททดสอบ
.
.
10. Howard Hughes: บทเรียนจากความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่
.
ในเดือนมกราคม 1924 Howard Hughes Sr. เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่ออายุ 54 ปี ลูกชายวัย 18 ปีได้รับมรดกบริษัทมูลค่าเกือบ 1 ล้านดอลลาร์
.
Hughes หนุ่มตัดสินใจซื้อหุ้นจากญาติทั้งหมดเพื่อครอบครองบริษัททั้งหมดเพียงผู้เดียว แต่หลังจากนั้น เขากลับสร้างหนึ่งในประวัติทางธุรกิจที่น่าอับอายที่สุด
.
Holiday สรุปผลงานของ Hughes:
.
หลังซื้อบริษัท เขาทิ้งมันทันทีและไม่เคยเหยียบสำนักงานใหญ่อีกเลย
เขาย้ายไป Los Angeles เพื่อเป็นโปรดิวเซอร์หนัง
เสียเงินกว่า 8 ล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้น
หนัง Hell's Angels ใช้เวลาทำ 3 ปี ขาดทุน 1.5 ล้าน
Spruce Goose เครื่องบินที่ใหญ่ที่สุด ใช้เวลา 5 ปี ใช้เงิน 20 ล้าน บินได้แค่ครั้งเดียว
ซื้อสตูดิโอ RKO และขาดทุน 22 ล้านดอลลาร์
.
Harold Geneen CEO ผู้สร้าง ITT เตือนไว้: "The worst disease which can afflict business executives in their work is not, as popularly supposed, alcoholism; it's egotism." - โรคที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดกับผู้บริหารธุรกิจในการทำงานไม่ใช่โรคพิษสุราเรื้อรังอย่างที่คนทั่วไปคิด แต่เป็นความยึดมั่นในตัวตน
.
.
11. บทเรียนจาก Genghis Khan
.
ตำนานของ Genghis Khan มักถูกเล่าผิด - ว่าเขาเป็นแค่คนป่าเถื่อนกระหายเลือด แต่ความจริงคือ Khan เป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นนักเรียนตลอดชีวิต
.
นักเขียนชีวประวัติอธิบายว่า Khan มี "a persistent cycle of pragmatic learning, experimental adaptation, and constant revision driven by his uniquely disciplined and focused will." (วงจรที่ต่อเนื่องของการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ การปรับตัวเชิงทดลอง และการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนโดยความมีวินัยและความมุ่งมั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา)
.
ตัวอย่างการเรียนรู้ของ Khan:
.
เขาจัดระเบียบทหารใหม่โดยแบ่งเป็นกลุ่มละ 10 คน ซึ่งเขาเรียนรู้จากชนเผ่า Turkic
เมื่อเจอกำแพงเมือง เขาเรียนรู้จากวิศวกรจีนวิธีสร้างเครื่องจักรทำลายกำแพง
ในทุกเมืองที่เขายึดได้ เขาจะเรียกหาหมอดู นักเขียน หมอ นักคิด ที่ปรึกษา - ใครก็ตามที่ช่วยกองทัพของเขาได้
.
John Wheeler นักฟิสิกส์กล่าวว่า: "As our island of knowledge grows, so does the shore of our ignorance." - เมื่อเกาะแห่งความรู้ของเราเติบโต ชายฝั่งแห่งความไม่รู้ของเราก็เติบโตด้วย
.
Wynton Marsalis นักดนตรีแจ๊สแนะนำว่า
.
"Humility engenders learning because it beats back the arrogance that puts blinders on. It leaves you open for truths to reveal themselves. You don't stand in your own way."
.
ความถ่อมตนก่อให้เกิดการเรียนรู้เพราะมันผลักความหยิ่งผยองที่ปิดบังสายตาออกไป มันทำให้คุณเปิดรับความจริงที่จะเผยตัวเอง คุณไม่ขวางทางตัวเอง)
.
.
12. อย่าเล่าเรื่องให้ตัวเอง
.
Bill Walsh โค้ชที่พา San Francisco 49ers จากทีมแย่ที่สุดเป็นแชมป์ Super Bowl ใน 3 ปี เมื่อมีคนถามว่าเขามีตารางเวลาสำหรับการชนะ Super Bowl หรือไม่ คำตอบของเขาคือ ไม่
.
แทนที่จะมุ่งเน้นที่การชนะ Walsh ใช้สิ่งที่เขาเรียกว่า "Standard of Performance" - มาตรฐานการปฏิบัติ:
.
ผู้เล่นห้ามนั่งบนสนามซ้อม
โค้ชต้องผูกเนคไทและเก็บชายเสื้อ
ทุกคนต้องให้ความพยายามสูงสุด
ห้ามสูบบุหรี่ ทะเลาะวิวาท หรือพูดหยาบคาย
.
Walsh เชื่อว่า: "The score takes care of itself" (คะแนนจะดูแลตัวเอง) - ถ้าผู้เล่นดูแลรายละเอียด คะแนนจะตามมาเอง
Bernard Baruch นักการเงินกล่าวไว้ดี: "Don't try to buy at the bottom and sell at the top. This can't be done—except by liars." (อย่าพยายามซื้อที่จุดต่ำสุดและขายที่จุดสูงสุด มันทำไม่ได้—ยกเว้นโดยคนโกหก)
.
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เตือนตัวเองว่าไม่มี "aha moment" สำหรับบริษัทพันล้านดอลลาร์ของเขา ไม่ว่าเขาจะอ่านอะไรในข่าวเกี่ยวกับตัวเอง
.
.
13. อะไรสำคัญกับคุณ?
.
หลังสงครามกลางเมือง Ulysses S. Grant และ William Tecumseh Sherman เป็นสองคนที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในอเมริกา Sherman เกลียดการเมืองและปฏิเสธคำชวนให้ลงสมัครรับตำแหน่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาบอกว่า "I have all the rank I want." (ผมมียศที่ผมต้องการแล้ว)
.
ในขณะที่ Grant เลือกที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดี ชนะด้วยคะแนนท่วมท้น แต่กลับเป็นหนึ่งในรัฐบาลที่คอร์รัปชั่นมากที่สุดและไม่มีประสิทธิภาพที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
.
หลังจากเป็นประธานาธิบดี Grant ลงทุนเกือบทุกเซ็นต์ในบริษัทนายหน้าทางการเงินกับ Ferdinand Ward ซึ่งเปลี่ยนมันเป็น Ponzi scheme และทำให้ Grant ล้มละลาย
.
Sherman เขียนถึงเพื่อนของเขาว่า Grant "aimed to rival the millionaires, who would have given their all to have won any of his battles." ( Grant มุ่งที่จะแข่งกับมหาเศรษฐี ซึ่งคงยอมให้ทุกอย่างเพื่อชนะศึกใดศึกหนึ่งของเขา)
.
นักปรัชญา Seneca พูดถึงคำภาษากรีกว่า "euthymia" - ความรู้สึกถึงเส้นทางของเราเองและวิธีการอยู่บนมันโดยไม่ถูกรบกวนจากเส้นทางอื่นที่ตัดผ่าน
.
.
14. ความรู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิ์ การควบคุม และความหวาดระแวง
.
เมื่อ Xerxes จักรพรรดิเปอร์เซียข้ามช่องแคบ Hellespont น้ำพุ่งขึ้นมาทำลายสะพาน เขาจึงโยนโซ่ลงไปในแม่น้ำ สั่งให้เฆี่ยน 300 ที และตราเหล็กร้อน
.
ขณะที่ทหาร “ลงโทษแม่น้ำ” พวกเขาถูกสั่งให้ด่าว่า: "You salt and bitter stream, your master lays this punishment upon you for injuring him, who never injured you."
.
William Blake กวีเขียนไว้: "The Strongest Poison ever known came from Caesar's Laurel Crown." - พิษที่แรงที่สุดเท่าที่เคยรู้จักมาจากมงกุลลอเรลของซีซาร์
.
Ty Warner ผู้สร้าง Beanie Babies โอ้อวดว่า: "I could put the Ty heart on manure and they'd buy it!" (ผมสามารถติดหัวใจ Ty บนมูลสัตว์และพวกเขาก็จะซื้อมัน!)
.
เขาผิด และบริษัทล้มเหลวอย่างหายนะ
.
Benjamin Franklin เขียนจดหมายถึง Arthur Lee นักการทูตอเมริกันที่โกรธเคืองและระแวงทุกคน: "If you do not cure yourself of this temper, it will end in insanity, of which it is the symptomatic forerunner." (หากคุณไม่รักษาอารมณ์นี้ของตัวเอง มันจะจบลงด้วยความบ้า ซึ่งมันเป็นอาการนำ)
.
Seneca กล่าวว่า: "He who indulges empty fears earns himself real fears."
.
ผู้ที่หมกมุ่นกับความกลัวที่ว่างเปล่าจะได้รับความกลัวที่แท้จริง
.
.
15. การจัดการตัวเอง
.
ในปี 1953 Dwight D. Eisenhower เข้าทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดี หัวหน้าพนักงานส่งจดหมาย 2 ฉบับที่เขียนว่า "Confidential and Secret"
.
ปฏิกิริยาของ Eisenhower รวดเร็ว “อย่าเอาซองปิดผนึกมาให้ผม นั่นคือสิ่งที่ผมมีทีมงานไว้ทำ”
.
Eisenhower ตระหนักว่าเหตุการณ์เล็กน้อยนี้เป็นอาการของการจัดการที่ไม่เป็นระบบ หัวหน้าเสนาธิการของเขาอธิบายภายหลัง: "The president does the most important things. I do the next most important things." (ประธานาธิบดีทำสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมทำสิ่งที่สำคัญรองลงมา)
.
เปรียบเทียบกับ John DeLorean ผู้สร้างบริษัทรถยนต์ เขาเชื่อว่าวัฒนธรรมของระเบียบและวินัยที่ GM กดขี่คนสร้างสรรค์ เมื่อเขาก่อตั้งบริษัท เขาจงใจทำทุกอย่างต่างออกไป
.
ผลลัพธ์เป็นองค์กรที่เต็มไปด้วยการเมือง ไร้ประสิทธิภาพ และคอร์รัปชั่น ผู้บริหารคนหนึ่งอธิบาย: DeLorean "had the ability to recognize a good opportunity but he didn't know how to make it happen." (มีความสามารถในการมองเห็นโอกาสที่ดี แต่เขาไม่รู้วิธีทำให้มันเกิดขึ้น)
.
.
16. โรคแห่งตัวฉัน (The Disease of Me)
.
Pat Riley โค้ชผู้นำ Los Angeles Lakers และ Miami Heat สู่แชมป์หลายสมัย อธิบายว่าทีมที่ยิ่งใหญ่มักตามวิถีเดียวกัน เมื่อพวกเขาเริ่มต้น ทีมจะบริสุทธิ์ใจ พวกเขามารวมกัน ดูแลซึ่งกันและกัน และทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายร่วม Riley เรียกช่วงนี้ว่า "Innocent Climb"
.
แต่หลังจากทีมเริ่มชนะและสื่อเริ่มให้ความสนใจ สายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงแต่ละคนเข้าด้วยกันเริ่มขาด ผู้เล่นคำนวณความสำคัญของตัวเอง อัตตาปรากฏ Riley เรียกสิ่งนี้ว่า "Disease of Me" - โรคแห่งตัวฉัน
.
มันคือ Shaq และ Kobe ที่เล่นด้วยกันไม่ได้ มันคือ Jordan ที่ชกเพื่อนร่วมทีม
.
General George C. Marshall เป็นข้อยกเว้นที่หาได้ยากในประวัติศาสตร์ เขาไม่เคยติดเชื้อ Disease of Me เขายืนกรานให้ประธานาธิบดีเรียกเขาว่า General Marshall ไม่ใช่ George แต่ขณะที่นายพลคนอื่นๆ ล็อบบี้เพื่อการเลื่อนตำแหน่ง Marshall กลับขอให้หยุด เพราะมัน "makes me conspicuous in the army. Too conspicuous in fact." (ทำให้ผมโดดเด่นในกองทัพ โดดเด่นเกินไปจริงๆ)
.
เมื่อมีโอกาสบัญชาการกองกำลังใน D-Day Roosevelt บอกว่ามันเป็นของ Marshall ถ้าเขาต้องการ Marshall ตอบ “การตัดสินใจเป็นของท่าน ท่านประธานาธิบดี ความปรารถนาของผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
.
ตำแหน่งและความรุ่งโรจน์ตกเป็นของ Eisenhower
.
Cheryl Strayed นักเขียนเคยบอกผู้อ่านหนุ่มว่า "You're becoming who you are going to be and so you might as well not be an asshole." (คุณกำลังกลายเป็นคนที่คุณจะเป็น ดังนั้นคุณอาจจะไม่ควรเป็นคนเลวก็ได้)
.
Tony Adams โค้ชฟุตบอลพูดได้ดี: "Play for the name on the front of the jersey, and they'll remember the name on the back."
.
เล่นเพื่อชื่อที่อยู่ด้านหน้าเสื้อ และพวกเขาจะจำชื่อที่อยู่ด้านหลัง
.
.
17. การใคร่ครวญถึงความยิ่งใหญ่
.
ในปี 1879 John Muir นักอนุรักษ์และนักสำรวจ เดินทางไป Alaska เป็นครั้งแรก ขณะที่เขาสำรวจ Glacier Bay ความรู้สึกที่ทรงพลังเข้ามาหาเขา
.
เขาบันทึกไว้อย่างงดงามถึงความเชื่อมโยงของทุกสิ่ง - กระแสน้ำที่ไหลไปมา ป่าไม้ที่กว้างใหญ่ แมลง สัตว์ป่า นก - ทุกที่ทุกแห่ง ความงามและชีวิต และการกระทำที่ชื่นบานยินดี
.
ในช่วงเวลานี้ เขากำลังประสบกับสิ่งที่พวกสโตอิกเรียกว่า "sympatheia" - ความเชื่อมโยงกับจักรวาล Pierre Hadot นักปรัชญาฝรั่งเศสเรียกมันว่า "oceanic feeling" - ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า
.
Neil deGrasse Tyson นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ อธิบายว่า: "When I look up in the universe, I know I'm small, but I'm also big. I'm big because I'm connected to the universe and the universe is connected to me."
.
เมื่อผมมองขึ้นไปในจักรวาล ผมรู้ว่าผมเล็ก แต่ผมก็ใหญ่ด้วย ผมใหญ่เพราะผมเชื่อมต่อกับจักรวาลและจักรวาลเชื่อมต่อกับผม
.
Holiday ชี้ให้เห็นความจริงที่น่าทึ่ง:
.
มนุษย์ยุคโบราณยังเดินบนโลกในขณะที่พีระมิดกำลังถูกสร้าง
Cleopatra อยู่ใกล้ยุคเรามากกว่าการสร้างพีระมิดในอาณาจักรของเธอ
ต้องใช้แค่ 6 คนที่จับมือกันข้ามศตวรรษเพื่อเชื่อม Barack Obama กับ George Washington
.
Muhammad Ali เคยพูดว่า: "It's hard to be humble when you're as great as I am." (มันยากที่จะถ่อมตนเมื่อคุณยิ่งใหญ่เท่าผม) แต่นั่นคือสาเหตุที่คนยิ่งใหญ่ต้องทำงานหนักกว่าเพื่อต่อสู้กับแรงต้านนี้
.
Blake เขียนบทกวีที่มีชื่อเสียง
.
"To see a World in a Grain of Sand / And a Heaven in a Wild Flower / Hold Infinity in the palm of your hand / And Eternity in an hour."
.
เห็นโลกในเม็ดทราย / และสวรรค์ในดอกไม้ป่า / กุมอนันต์ในอุ้งมือ / และนิรันดร์ในหนึ่งชั่วโมง
.
.
=========================
.
FAILURE - เมื่อเราต้องเผชิญกับความล้มเหลว
.
Bill Walsh"Almost always, your road to victory goes through a place called 'failure.'" เกือบเสมอ ถนนสู่ชัยชนะของคุณผ่านสถานที่ที่เรียกว่า 'ความล้มเหลว' - Bill Walsh
.
Plutarch "The future bears down upon each one of us with all the hazards of the unknown." – อนาคตกดทับเราแต่ละคนด้วยอันตรายทั้งหมดของสิ่งที่ไม่รู้ - Plutarch
.
ทางเดียวที่จะผ่านไปได้คือผ่านมันไป…
.
.
18. เวลามีชีวิตหรือเวลาตาย
.
Malcolm X เป็นอาชญากร พวกเขาเรียกเขาว่า Detroit Red เขาถูกจับและติดคุก 10 ปี
.
Robert Greene เรียกสถานการณ์นี้ว่า "Alive Time or Dead Time" - Malcolm จะใช้เวลานี้อย่างไร?
.
Malcolm เลือก alive time เขาเริ่มเรียนรู้ เขาสอนตัวเองให้เป็นนักอ่านโดยยืมดินสอและพจนานุกรมจากห้องสมุดคุก และคัดลอกมันด้วยลายมือตั้งแต่ปกถึงปก
.
เขาพูดภายหลังว่า "ตั้งแต่นั้นจนกระทั่งผมออกจากคุก ในทุกช่วงเวลาว่างที่ผมมี ถ้าผมไม่ได้อ่านในห้องสมุด ผมก็อ่านบนเตียงของผม”
.
เมื่อนักข่าวถาม “โรงเรียนเก่าของคุณคืออะไร?” คำตอบคำเดียวของเขา: "Books"
.
เขาสะท้อนว่าหลายเดือนผ่านไปโดยที่เขาไม่คิดถึงการถูกกักขัง เขา “ไม่เคยเป็นอิสระอย่างแท้จริงในชีวิตเท่านี้มาก่อน”
.
ตัวอย่างอื่นๆ
.
Francis Scott Key เขียนบทกวีที่กลายเป็นเพลงชาติขณะติดอยู่บนเรือ
Viktor Frankl พัฒนาจิตวิทยาของความหมายในค่ายกักกันนาซี
Ian Fleming สร้าง Chitty Chitty Bang Bang ด้วยมือขณะพักรักษาตัว
Walt Disney ตัดสินใจเป็นนักวาดการ์ตูนขณะพักหลังเหยียบตะปู
.
Booker T. Washington พูดได้ดีที่สุด: "Cast down your bucket where you are." ทิ้งถังของคุณลงในที่ที่คุณอยู่ (ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ)
.
.
19. ความพยายามก็เพียงพอแล้ว
.
Belisarius เป็นหนึ่งในนายพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแต่ไม่เป็นที่รู้จักในประวัติศาสตร์ เขาช่วยอารยธรรมตะวันตกอย่างน้อย 3 ครั้ง ชนะศึกสำคัญมากมาย
.
แต่เขาไม่ได้รับการยกย่องสาธารณะ ถูกจักรพรรดิที่เขารับใช้สงสัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชัยชนะและการเสียสละของเขาถูกทำลายด้วยสนธิสัญญาที่โง่เขลา ตอนท้ายของอาชีพ เขาถูกปลดจากความมั่งคั่ง และตามตำนาน ถูกทำให้ตาบอดและต้องขอทานบนถนน
.
แต่คนที่เราไม่ได้ยินคำบ่นเลย? Belisarius เอง
.
ในสายตาของเขา เขาแค่ทำงานของเขา - งานที่เขาเชื่อว่าเป็นหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ เขารู้ว่าเขาทำมันได้ดี เขารู้ว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นก็เพียงพอ
.
บทกวี Longfellow เกี่ยวกับนายพลผู้น่าสงสารของเรา ตอนท้ายชีวิตเขายากจนและพิการ แต่เขาสรุปด้วยความแข็งแกร่ง:
.
"This, too, can bear - I still Am Belisarius!" (นี่ก็ทนได้เช่นกัน - ผมยังคงเป็นเบลิซาเรียส!)
.
John Wooden แนะนำผู้เล่นของเขา: เปลี่ยนนิยามของความสำเร็จ
.
"Success is peace of mind, which is a direct result of self-satisfaction in knowing you made the effort to do your best to become the best that you are capable of becoming."
.
ความสำเร็จคือความสงบของจิตใจ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากความพึงพอใจในตนเองที่รู้ว่าคุณพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเป็นได้
.
Marcus Aurelius เตือนตัวเอง
.
"Ambition means tying your well-being to what other people say or do... Sanity means tying it to your own actions."
.
ความทะเยอทะยานหมายถึงการผูกความเป็นอยู่ที่ดีของคุณกับสิ่งที่คนอื่นพูดหรือทำ... ความมีสติหมายถึงการผูกมันกับการกระทำของคุณเอง
.
.
20. Fight Club Moments
.
มีหลายวิธีที่จะตกถึงจุดต่ำสุด J.K. Rowling พบว่าตัวเอง 7 ปีหลังจบมหาวิทยาลัย มีการแต่งงานที่ล้มเหลว ไม่มีงาน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เด็กๆ ที่เธอแทบเลี้ยงไม่ไหว และใกล้จะไร้บ้าน
.
ในนวนิยาย Fight Club ตัวละคร Jack ถูกระเบิดอพาร์ทเมนท์ ทรัพย์สินทั้งหมดหายไป ภายหลังปรากฏว่า Jack ระเบิดมันเอง เขามีบุคลิกหลายตัว และ "Tyler Durden" จัดการระเบิดเพื่อกระตุ้น Jack จากความมึนงงที่น่าเศร้าที่เขากลัวที่จะทำอะไร
.
ในตำนานกรีก ตัวละครมักประสบ katabasis - หรือ "การลงไป" พวกเขาถูกบังคับให้ถอย ประสบกับภาวะซึมเศร้า หรือในบางกรณีลงไปยังยมโลกจริงๆ เมื่อพวกเขากลับขึ้นมา มันมาพร้อมกับความรู้และความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น
.
"Duris dura franguntur." (สิ่งแข็งถูกทำลายด้วยสิ่งแข็ง)
.
.
Reverend William A. Sutton สังเกตเมื่อ 120 ปีก่อนว่า "we cannot be humble except by enduring humiliations." (เราไม่สามารถถ่อมตนได้นอกจากโดยการอดทนต่อความอับอาย)
.
ช่วงเวลา Fight Club เหล่านี้มีลักษณะ 3 อย่าง:
.
1. มักมาจากแรงหรือบุคคลภายนอก
.
2. มักเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วเกี่ยวกับตัวเอง แต่กลัวเกินกว่าจะยอมรับ
.
3. จากความพังทลาย มาเป็นโอกาสสำหรับความก้าวหน้าและการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่
.
Hemingway เขียนใน A Farewell to Arms: "The world breaks every one and afterward many are strong at the broken places. But those that will not break it kills." (โลกทำลายทุกคน และหลังจากนั้นหลายคนแข็งแกร่งขึ้นในจุดที่แตกหัก แต่คนที่ไม่ยอมแตกหัก มันฆ่า)
.
.
นักจิตวิทยามักพูดว่าอัตตาที่ถูกคุกคามเป็นหนึ่งในพลังที่อันตรายที่สุดบนโลก สมาชิกแก๊งที่ "เกียรติ" ถูกดูหมิ่น คนหลงตัวเองที่ถูกปฏิเสธ คนพาลที่ถูกทำให้รู้สึกอาย
.
Lance Armstrong โกง แต่คนอื่นก็โกงเหมือนกัน มันเมื่อการโกงนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะและเขาถูกบังคับให้เห็น - แม้แค่วินาที - ว่าเขาเป็นคนโกง ที่ทำให้สิ่งต่างๆ แย่จริงๆ เขายืนกรานที่จะปฏิเสธแม้จะมีหลักฐานทั้งหมด เขายืนกรานที่จะทำลายชีวิตคนอื่น
.
John 3:20 กล่าวว่า "Everyone who does wicked things hates the light and does not come to the light, lest his works should be exposed." (ทุกคนที่ทำสิ่งชั่วร้ายเกลียดความสว่างและไม่มาสู่ความสว่าง เกรงว่างานของเขาจะถูกเปิดเผย)
.
เผชิญกับอาการ รักษาโรค อัตตาทำให้มันยาก - ง่ายกว่าที่จะผัดวันประกันพรุ่ง ที่จะเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่า ที่จะจงใจหลีกเลี่ยงการมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องทำในชีวิต
.
Vince Lombardi กล่าวว่า: "A team, like men, must be brought to its knees before it can rise again." (ทีม เหมือนมนุษย์ ต้องถูกนำมาคุกเข่าก่อนที่จะลุกขึ้นได้อีกครั้ง)
.
.
21. วาดเส้น
.
John DeLorean ทำให้บริษัทรถยนต์ของเขาล่มสลายด้วยความทะเยอทะยานที่เกินขนาด ความประมาท ความหลงตัวเอง ความโลภ และการจัดการที่ผิดพลาด เมื่อข่าวร้ายเริ่มกองพะเนิน เขาตอบสนองอย่างไร?
.
เขาไม่ได้ยอมรับความผิดพลาด แต่กลับเริ่มแผนการค้ายาเสพติดมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ เขาถูกจับพร้อมถุงโคเคนในมือ พูดด้วยความตื่นเต้นว่า "This stuff is as good as gold." (ของนี้ดีเท่าทองคำเลย)
.
เขาพบว่าตัวเองอยู่ในหลุมและยังคงขุดต่อไปจนถึงนรก
.
Steve Jobs ถูกไล่ออกจาก Apple เขาร้องไห้ เขาต่อสู้ เมื่อแพ้ เขาขายหุ้นทั้งหมดยกเว้นหนึ่งหุ้นและสาบานว่าจะไม่คิดถึงที่นั่นอีก แต่จากนั้นเขาเริ่มบริษัทใหม่และทุ่มเททั้งชีวิตลงไป เขาพยายามเรียนรู้จากความผิดพลาดในการจัดการที่เป็นรากเหตุของความล้มเหลวครั้งแรก
.
Dov Charney ผู้ก่อตั้ง American Apparel หลังจากขาดทุน 300 ล้านดอลลาร์และเรื่องอื้อฉาวมากมาย บริษัทเสนอทางเลือก: ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และเป็นที่ปรึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์ หรือถูกไล่ออก เขาปฏิเสธทั้งสองทางเลือกและเลือกสิ่งที่แย่กว่า
.
เขาฟ้องร้อง พยายามยึดบริษัทคืน ชีวิตส่วนตัวถูกเปิดเผย รายละเอียดที่น่าอับอายถูกเปิดโปง American Apparel ใช้เงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์ที่ไม่มีเพื่อต่อสู้กับเขา หนึ่งปีต่อมา พวกเขาล้มละลายและเขาก็หมดเงิน
.
Alexander Hamilton แม้จะมีจุดจบที่น่าเศร้าและไม่จำเป็น แต่ก็มีคำพูดที่ฉลาดในหัวข้อนี้ เขาเขียนถึงเพื่อนที่ตกอยู่ในปัญหาทางการเงินและกฎหมายร้ายแรงที่เขาก่อขึ้นเอง:
.
"Act with fortitude and honor. If you cannot reasonably hope for a favorable extrication, do not plunge deeper. Have the courage to make a full stop."
.
จงกระทำด้วยความกล้าหาญและเกียรติยศ หากคุณไม่สามารถหวังได้อย่างสมเหตุสมผลว่าจะหลุดพ้นได้ดี อย่าตกลงไปให้ลึกกว่านี้ จงมีความกล้าที่จะหยุดเต็มที่
.
การหยุดเต็มที่ ไม่ใช่ว่าคนเหล่านี้ควรเลิกทุกอย่าง แต่นักสู้ที่ไม่สามารถยอมแพ้หรือนักมวยที่ไม่รู้จักเวลาเกษียณจะได้รับบาดเจ็บ อย่างร้ายแรงด้วย
.
เมื่อทีมดูเหมือนจะแพ้ โค้ชไม่ได้เรียกพวกเขามาและโกหก แต่เตือนพวกเขาว่าพวกเขาเป็นใครและมีความสามารถอะไร และกระตุ้นให้พวกเขากลับไปและแสดงออกมา
.
การฟื้นตัวไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ แต่เป็นการก้าวไปทีละก้าว เว้นแต่การรักษาของคุณคือโรคมากขึ้น
.
มีเพียงอัตตาเท่านั้นที่คิดว่าความอับอายหรือความล้มเหลวเป็นมากกว่าสิ่งที่มันเป็น
.
เมื่อความสำเร็จเริ่มหลุดลอยจากนิ้วมือ การตอบสนองไม่ใช่การจับและกรงเล็บอย่างแรงจนแตกเป็นชิ้นๆ แต่เป็นการเข้าใจว่าคุณต้องทำงานกลับไปสู่ช่วงความทะเยอทะยาน คุณต้องกลับไปที่หลักการแรกและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
.
Seneca เคยกล่าวว่า "He who fears death will never do anything worthy of a living man." (ผู้ที่กลัวความตายจะไม่มีวันทำสิ่งใดที่คู่ควรกับคนที่มีชีวิต)
.
หรือในกรณีนี้: ผู้ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวมักจะทำบางสิ่งที่คู่ควรกับความล้มเหลว
.
ความล้มเหลวที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือการละทิ้งหลักการของคุณ การฆ่าสิ่งที่คุณรักเพราะคุณทนแยกจากมันไม่ได้เป็นความเห็นแก่ตัวและโง่เขลา หากชื่อเสียงของคุณไม่สามารถรับการโจมตีได้สักสองสามครั้ง มันก็ไม่มีค่าอะไรตั้งแต่แรก
.
.
22. รักษาสกอร์การ์ดของตัวเอง
.
วันที่ 16 เมษายน 2000 New England Patriots ดราฟต์ควอเตอร์แบ็คสำรองจาก University of Michigan พวกเขาสอดแนมเขามาอย่างละเอียดและจับตาเขามานาน เห็นว่าเขายังอยู่ จึงเลือกเขา มันเป็นรอบที่ 6 และลำดับที่ 199 ของดราฟต์
.
ชื่อของควอเตอร์แบ็คหนุ่มคือ Tom Brady
.
ในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุน มันอาจเป็นดราฟต์พิคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล: 4 แหวน Super Bowl, 14 ฤดูกาลในฐานะตัวจริง, 172 ชัยชนะ, 428 ทัชดาวน์, 3 รางวัล Super Bowl MVP, 58,000 หลา, 10 Pro Bowls และแชมป์ดิวิชั่นมากกว่าควอเตอร์แบ็คคนไหนในประวัติศาสตร์
.
คุณคงคิดว่าฝ่ายบริหารของ Patriots คงตื่นเต้นมากกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และจริงๆ แล้วพวกเขาก็เป็น แต่พวกเขาก็ผิดหวังในตัวเองอย่างมากด้วย ความสามารถที่น่าประหลาดใจของ Brady หมายความว่ารายงานการสอดแนมของ Patriots ผิดพลาดมาก พวกเขาปล่อยให้รอจนถึงรอบที่ 6 คนอื่นอาจดราฟต์เขาไปก่อน
.
Scott Pioli ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลของ Patriots เก็บรูปถ่ายของ Dave Stachelski ผู้เล่นที่ทีมดราฟต์ในรอบที่ 5 แต่ไม่ผ่านค่ายฝึกซ้อม ไว้บนโต๊ะทำงานเป็นเวลาหลายปี มันเป็นการเตือน: คุณไม่ได้เก่งอย่างที่คุณคิด คุณยังไม่เข้าใจทุกอย่าง จดจ่อ ทำให้ดีขึ้น
.
Coach John Wooden ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ สกอร์บอร์ดไม่ใช่ผู้ตัดสินว่าเขาหรือทีมประสบความสำเร็จหรือไม่ - นั่นไม่ใช่สิ่งที่ถือว่า "ชนะ"
.
Bo Jackson ไม่ประทับใจเมื่อเขาตีโฮมรันหรือวิ่งทัชดาวน์เพราะเขารู้ว่า "he hadn't done it perfect" (เขายังทำได้ไม่สมบูรณ์แบบ)
.
นี่คือลักษณะของการคิดของคนยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาหาความล้มเหลวในทุกความสำเร็จ พวกเขาแค่ยึดตัวเองไว้กับมาตรฐานที่เกินกว่าสิ่งที่สังคมอาจพิจารณาว่าเป็นความสำเร็จเชิงวัตถุ
.
อัตตาไม่สามารถมองเห็นทั้งสองด้านของประเด็น มันไม่สามารถดีขึ้นได้เพราะมันเห็นแต่การยืนยัน จำไว้ว่า "Vain men never hear anything but praise." (คนหลงตัวเองไม่เคยได้ยินอะไรนอกจากคำชม)
.
Warren Buffett พูดถึงความแตกต่างระหว่างสกอร์การ์ดภายในและภายนอก ศักยภาพของคุณ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเป็นได้ - นั่นคือมาตรวัดที่ใช้วัดตัวเอง มาตรฐานของคุณคือ การชนะไม่เพียงพอ
.
Adam Smith นักเศรษฐศาสตร์ (และนักปรัชญา) มีทฤษฎีว่าคนฉลาดและดีประเมินการกระทำของตนเองอย่างไร:
.
"There are two different occasions upon which we examine our own conduct, and endeavour to view it in the light in which the impartial spectator would view it: first, when we are about to act; and secondly, after we have acted."
.
มีสองโอกาสที่แตกต่างกันที่เราตรวจสอบความประพฤติของเราเอง และพยายามมองมันในแง่ที่ผู้ชมที่เป็นกลางจะมอง: แรก เมื่อเรากำลังจะกระทำ; และที่สอง หลังจากที่เราได้กระทำแล้ว
.
"ผู้ชมที่เป็นกลาง" นี้เป็นเหมือนคู่มือที่เราสามารถตัดสินพฤติกรรมของเรา ตรงข้ามกับเสียงปรบมือที่ไร้หลักการที่สังคมมักให้
.
.
23. รักเสมอ
.
คุณรู้ไหมว่าการตอบสนองที่ดีกว่าต่อการโจมตีหรือการดูถูกหรือสิ่งที่คุณไม่ชอบคืออะไร? ความรัก ใช่แล้วครับ ความรัก
.
เพราะอย่างที่เนื้อเพลงว่า "hate will get you every time" (ความเกลียดจะครอบงำคุณทุกครั้ง)
.
Frederick Douglass เมื่อถูกขอให้ย้ายไปนั่งในตู้สัมภาระเพราะเชื้อชาติของเขา มีผู้สนับสนุนวิ่งมาขอโทษสำหรับการดูถูกนี้ "I am sorry, Mr. Douglass, that you have been degraded in this manner." (ผมเสียใจ คุณดักลาส ที่คุณถูกดูหมิ่นในลักษณะนี้)
.
Douglass ไม่ยอมรับ เขาไม่โกรธ เขาไม่เจ็บปวด เขาตอบด้วยความแรงกล้า: "They cannot degrade Frederick Douglass. The soul that is within me no man can degrade. I am not the one that is being degraded on account of this treatment, but those who are inflicting it upon me."
.
(พวกเขาไม่สามารถดูหมิ่น Frederick Douglass ได้ จิตวิญญาณที่อยู่ในตัวผมไม่มีใครดูหมิ่นได้ ผมไม่ใช่คนที่ถูกดูหมิ่นเพราะการปฏิบัตินี้ แต่เป็นผู้ที่กระทำมันต่อผม)
.
Martin Luther King Jr. เทศนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความเกลียดเป็นภาระและความรักคืออิสรภาพ ในคำเทศนาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา
.
"Hate at any point is a cancer that gnaws away at the very vital center of your life and your existence. It is like eroding acid that eats away the best and the objective center of your life."
.
ความเกลียดในจุดใดก็ตามเป็นมะเร็งที่แทะกร่อนศูนย์กลางที่สำคัญของชีวิตและการดำรงอยู่ของคุณ มันเหมือนกรดกัดกร่อนที่กัดกินส่วนที่ดีที่สุดและศูนย์กลางที่เป็นกลางของชีวิตคุณ
.
ลองประเมินสักวินาที คุณไม่ชอบอะไร? ชื่อใครทำให้คุณรู้สึกขยะแขยงและโกรธ? ตอนนี้ถาม: ความรู้สึกแรงกล้าเหล่านี้ช่วยให้คุณทำอะไรสำเร็จไหม?
.
ในความล้มเหลวหรือความยากลำบาก มันง่ายมากที่จะเกลียด ความเกลียดผัดวันประกันพรุ่งการตำหนิ มันทำให้คนอื่นรับผิดชอบ มันเป็นสิ่งที่รบกวนสมาธิด้วย เราไม่ทำอะไรมากเมื่อเรายุ่งกับการแก้แค้นหรือสืบสวนความผิดที่คาดว่าจะถูกทำกับเรา
.
นี่ทำให้เราเข้าใกล้ที่ที่เราต้องการไปไหม? ไม่ มันแค่ทำให้เราอยู่ที่เดิม - หรือแย่กว่านั้น หยุดการพัฒนาของเราโดยสิ้นเชิง
.
ในขณะเดียวกัน ความรักอยู่ตรงนั้น ไร้อัตตา เปิดกว้าง เชิงบวก เปราะบาง สงบ และมีประสิทธิผล
.
.
=========================
.
มีคำพูดจาก Bismarck ที่กล่าวว่า คนโง่ทุกคนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ เคล็ดลับคือการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น
.
Holiday สรุปว่าเราทุกคนจะพบตัวเองอยู่ในหนึ่งในสามช่วงเวลา: ความทะเยอทะยาน ความสำเร็จ ความล้มเหลว เราจะต่อสู้กับอัตตาในแต่ละช่วง เราจะทำผิดพลาดในแต่ละช่วง
.
อัตตาเป็นศัตรู - ในทุกขั้นตอนของการเดินทาง แต่ด้วยความตระหนักรู้ ความถ่อมตน และการทำงานอย่างต่อเนื่อง เราสามารถเอาชนะมันได้ ไม่ใช่ครั้งเดียว แต่ทุกวัน ทุกช่วงเวลา ตลอดชีวิตของเรา
.
“Ego is the enemy of what you want and of what you have:
.
Of mastering a craft.
.
Of real creative insight.
.
Of working well with others.
.
Of building loyalty and support.
.
Of longevity.
.
Of repeating and retaining your success.
.
It repulses advantages and opportunities.
It’s a magnet for enemies and errors.”
.
.
.
.
#SuccessStrategies

Pond Apiwat Atichat

Real Estate Rental Business , Creator , Writer , Law Student

Currently Studying Bachelor of Laws at Chulalongkorn University

First Class Honors in Bachelor of Arts at Ramkhamhaeng University

Previous
Previous

สรุปหนังสือ Tribe of Mentors : คำแนะนำจากบรรดาคนเก่งๆของโลก เขียนโดย Tim Ferriss

Next
Next

The 48 Laws of Power : ว่าด้วยกฎแห่งอำนาจ เขียนโดย Robert Greene (สรุปฉบับสมบูรณ์)